‘ภาวะน้ำตาลต่ำ’ เป็นภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญและพบได้บ่อยๆ ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ซึ่งเกิดจากร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดน้อยกว่า 70 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ส่งผลให้มีอาการแสดงต่างๆ ได้แก่ เหงื่อแตก ตัวเย็น มือสั่น ตาพร่า คลื่นไส้ อ่อนเพลีย หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน มึนเวียนศีรษะ ใจสั่น ใจเต้นเร็ว หรืออาจมีภาวะรุนแรงจนหมดสติหรือชักได้ ดังนั้นผู้ป่วยเบาหวานและครอบครัวของผู้ป่วย ควรทราบอาการแสดง สาเหตุ และการดูแลตนเองในเบื้องต้น เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดซ้ำใหม่และภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
สาเหตุที่ทำให้เกิด ‘ภาวะน้ำตาลต่ำ’
1.อาหาร
- ไม่รับประทานอาหารตรงตามเวลาห่างจากเวลารับประทานยาหรือฉีดอินซูลินมากเกินไป
- งดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง
- รับประทานอาหารไม่คงที่ มากไป น้อยไป ในแต่ละมื้อ
- มีสาเหตุทำให้ไม่สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติจากภาวะโรคทางกาย
- ควบคุมอาหารเข้มงวดขึ้นกว่าเดิม ทำให้ระดับยาหรืออินซูลินที่ใช้อยู่มากเกินไป
- ทำงานหรือกิจกรรมนานเกินไปโดยไม่ได้รับประทานอาหารตามเวลา
2.ออกกำลังกาย
- ออกกำลังกายโดยไม่รับประทานอาหารตามปกติ
- ออกกำลังกายมากเกินไป
3.การใช้ยาหรืออินซูลิน
- ฉีดอินซูลินในตำแหน่งซ้ำๆ ไม่ยอมเปลี่ยนตำแหน่ง
- ปรับใช้ยาหรืออินซูลินเอง ไม่ใช้ตามที่แพทย์แนะนำปรับระดับยาหรืออินซูลินสูงกว่าที่แพทย์กำหนด
4.ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาที่ท้องว่าง
วิธีดูแลตนเองเบื้องต้นเมื่อมี ‘ภาวะน้ำตาลต่ำ’
เมื่อมีอาการสงสัยภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำให้ปฎิบัติดังนี้
1.ให้รีบรับประทานอาหารทดแทนน้ำตาล เช่น
- กลูโคสเม็ด 2-3 เม็ด
- น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
- ลูกอม 8 เม็ด
- ลูกเกด 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำหวาน น้ำผลไม้หรือน้ำอัดลม1/2 แก้ว
- นม 1 แก้ว
- ส้ม หรือ กล้วย 1-2 ผล
- น้ำตาลก้อน 2 ก้อน
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
2.หากสามารถทดสอบระดับน้ำตาลปลายนิ้วได้
- ให้ทดสอบหลังรับประทานภายใน 15 นาที ถ้าระดับน้ำตาลยังต่ำให้รับประทานซ้ำ และทดสอบซ้ำอีกครั้งหลังรับประทาน 15 นาที ถ้ายังไม่ดีขึ้นอีกควรรีบติดต่อโรงพยาบาลหรือแจ้งญาติเพื่อรีบนำส่งโรงพยาบาล
หากไม่สามารถทดสอบระดับน้ำตาลเองที่บ้านได้แต่รู้สึกยังไม่ปกติ ให้รับประทานซ้ำและรีบติดต่อโรงพยาบาลหรือหรือแจ้งญาติเพื่อนำส่งโรงพยาบาล